อุโตะ อุกิ มิซาโตะ ~สถานที่ที่รวมความความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติวัฒนธรรมและความรุ่งเรืองของประวัติศาสตร์ไว้ให้เราไปค้นหา~
สารบัญ
ในตอนกลางของจังหวัดคุมาโมโตเป็นที่ตั้งของ 3 เมืองมีชื่อว่า อุกิแอเรีย(Uki Area) ประกอบไปด้วย เมืองอุโตะ อุกิและมิซาโตะ
มีครบทุกสายทั้งสายทะเลสายภูเขาแถมวิวทิวทัศน์ก็สวยงาม เรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านบ้านเรือนในเมือง มาให้หัวใจและร่างกายของเราได้รับความผ่อนคลายใกล้ๆง่ายๆจากฟุกุโอกะเดินทางแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้นเอง
จากสถานีคุมาโมโตะถึงสถานีมิซูมิเดินทางโดยเจอาร์รถไฟสายท่องเที่ยวชื่อว่า รถไฟด่วนพิเศษ(A-Train) ชมวิวสวยๆผ่านทางหน้าต่างก็ฟิลกู้ดไปอีกแบบ
เดินทางด้วยรถไฟด่วนพิเศษ (A-Train) |
---|
HP:http://www.jrkyushu.co.jp/trains/atrain/ |
ลงจากรถไฟมาฟ้าฝนก็เป็นใจสว่างสดใสต้อนรับคุณเฉินเฉินที่หัวใจของเธอก็เบิกบานพร้อมที่จะออกเที่ยวเมืองอุกิแล้ว!
เสน่ห์ที่1ของเมืองอุกิ ท่าเรือมิซูมิ
ท่าเรือแห่งนี้สวยถึงขนาดถูกใช้เป็นที่ถ่ายทำละครของประเทศไต้หวันเลยทีเดียว โดยสัญลักษณ์ประจำท่าเรือนี้ก็คือตึกทรงพิรามิดตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมทะเล มีทางเดินให้ได้ชมทั้งด้านนอกและด้านในเพื่อให้ทุกคนได้เข้าถึงความสวยงามได้นั่นเอง
จากจุดชมวิวจะมองเห็นทะเลสีเขียวมรกตฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นเกาะอะมาคุสะ คุณเฉินเฉินได้ดื่มด่ำไปกับแสงที่ส่องกระทบกับน้ำทะเลวิบวับเหม่อมองเกาะน้อยใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงหน้ารวมถึงเรือลำเล็กๆที่แล่นผ่านไปมา
จากท่าเรือมิซูมิถึงเกาะอะมาคุสะมีเรือประจำทางคุณสามารถเอ็นจอยไปกับการล่องเรือข้ามไปเกาะนั้นๆได้อีกด้วย
ท่าเรือมิซูมิ |
---|
สถานที่ :Kumamoto ken ukishimisumimachi sankaku วิธีการเดินทาง:JRมิซูมิเดินเท้าใช้เวลา 1 นาที เกาะอะมาคุสะ:http://www.seacruise.jp/teiki/jikoku/index.html |
เสน่ห์ที่2 ของเมืองอุกิ ท่าเรือมิซูมิฝั่งตะวันตก
ท่าเรือมิซูมิฝั่งตะวันตกนั้นถูกจดทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลก เสร็จสมบูรณ์เมื่อปี 1887 ท่าเรือแห่งนี้มีอาคารสไตล์ตะวันตกสมัยใหม่สร้างพร้อมกันสามที่ในเวลาเดียวกันเช่นเดียวกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของยุคสมัยนั้นรวมถึงท่าเรือบ่อหินและทางน้ำที่ยังคงสภาพเดิมไว้ให้ได้เห็นในปัจจุบัน
พาร่างกายและหัวใจมาปะทะกับลมทะเลเพื่อรับความสดชื่น แถมฝั่งตรงข้ามยังเห็นสะพานอะมาคุสะได้อีก
ท่าเรือมิซูมิฝั่งตะวันตก |
---|
สถานที่:Kumamotoken ukishi misumimachi misumiura วิธีการเดินทาง:สถานีJRมิซูมิต่อด้วยรถใช้เวลาประมาณ 5 นาที โฮมเพจ:http://www.city.uki.kumamoto.jp/q/aview/49/532.html วีดีโอ:https://youtu.be/cVXyPdsYWnQ |
บริเวณท่าเรือมีร้านอาหารคาเฟ่ ไม่ว่าใครที่ใจเซหรือไม่เซก็มาใช้เวลานั่งมองทะเลได้นะ
ร้านกาแฟท่าเรือมิซูมิฝั่งตะวันตก ร้านโฮลันดะ |
---|
สถานที่:kumamotoken ukishi misumimachi misumiura1268-1(misumi west port) โทร:0964-52-2050 เวลาทำการ:11:00~18:00 |
เสน่ห์ที่3 ของเมืองอุกิ ย่านท่าเรือเก่ากำแพงขาวมัสสึไอและการทำโชยุ มิโสะ
บริเวณมัสสึไอถึงแม้จะเคยถูกไฟไหม้ครั้งใหญ่โดยบริเวณที่ตั้งนี้มีบ้านเรือนที่รวมกันอยู่อย่างหนาแน่นแต่ปัจจุบันก็ยังคงสภาพแบบเดิมไว้ให้เห็น
เมืองนี้ถูกยกให้เป็นท่าเรือที่สำคัญของจังหวัดคุมาโมโตะ เพราะว่าถั่วเหลืองและข้าวสาลีจากทั่วประเทศถูกขนมาไว้ที่นี่ เนื่องจากมีน้ำใต้ดินที่สะอาดซึ่งเป็นส่วนประกอบในการผลิตสาเก โชยุและมิโซะว่ากันว่าทำให้มีรสชาติอร่อยไม่เหมือนที่อื่น และในครั้งนี้เราก็จะไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตที่ว่าด้วย ขอบอกเลยว่าที่นี่ยังคงวิธีการผลิตแบบสมัยก่อนไว้อยู่เลยนะ
ภายในร้านเต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์แปรรูปจากโชยุและมิโสะเรียงรายให้ได้เลือกซื้อกัน
อย่างเช่น ซอฟต์ครีมรสโชยุที่คุณเฉินเฉินได้ลองชิมแล้วบอกกับเราว่า 「อื้มมมม~รสชาติเหมือนคาราเมลเลย」
ที่โรงงานสามารถเข้าไปเยี่ยมชมถึงวิธีการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมได้ด้วยนะ (แต่ว่าต้องทำการแจ้งล่วงหน้าก่อนจ้า)
แค่ก้าวขาเข้าไปก้าวแรกก็ได้กลิ่นหอมของโชยุลอยมาเลย ที่จริงแล้วเค้ากำลังทำการผลิตโชยุอยู่นั่นเองและแน่นอนว่าต้องของลองทำดูซักหน่อย
เมื่อคุณเฉินเฉินได้ลองผสมวัตถุดิบต่างๆที่หมักอยู่ในถังไม้ถึงกับต้องอุทานว่า「หื้มมม~หนักจัง」หรือแค่จะยืนดูวิธีการผลิตโชยุเฉยๆก็ได้
ยังไม่หมด ที่นี่ก็ผลิตมิโสะด้วย ดังนั้นแน่นอนเลยว่าเราก็ต้องได้ชิมซุปมิโสะซึ่งรสชาติของที่นี่เป็นสูตรลับเฉพาะที่ได้รับการสืบทอดมาจากสมัยก่อนอย่างไงอย่างงั้นไม่เปลี่ยนพอได้ชิมเข้าไปแล้วก็ให้อารมณ์เหมือนสมัยก่อนเลยจริงๆ
บริษัท มัสสึไอ จำกัด |
---|
สถานที่:Kumamotoken Uki-shi Shiranuhi-machi Matsuai 188 การเดินทาง:สถานีJRมัสสึบะเซต่อด้วยรถใช้เวลาประมาณ 13 นาที โทร:0964-42-2212 เวลาทำการ:9:00~18:00 HP:http://www.matsuai.co.jp/ |
เสน่ห์ที่ 1 ของเมืองอุโตะ คลังสะสมโอไดโกะ (กลองใหญ่)
ที่เมืองอุโตะนี้ในสมัยก่อนจะมีการจัดพิธีขอฝน(อะมะโกอิ)เพื่อขอให้ได้ผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์ในทุกปี และที่คลังสะสมโอไดโกะนี้ก็ได้นำกลองขนาดใหญ่ที่ใช้ในพิธีมาจัดแสดงให้ได้ชมมีจำนวนทั้งหมด 26 ใบ
ที่นี่ไม่ได้มีแค่กลองใหญ่มากมายสะสมเก็บไว้เท่านั้น แต่ว่าสิ่งสำคัญคือแสดงให้เห็นถึงการสืบทอดประเพณีเก่าแก่จากสมัยก่อนมาซึ่งเป็นที่ยอมรับกันว่ามีคุณค่าทางวัฒนธรรมอย่างยิ่งให้ได้ชม อีกทั้งที่นี่ยังสามารถลองตีกลองใหญ่ที่ว่านี้ได้ด้วย อยากให้ทุกคนได้มาลองสัมผัสและได้ยินเสียงกลองที่ดังกังวานนี้กัน ดูคุณเฉินเฉินจะตื่นเต้นมากเลยนะเนี่ยะ
คลังสะสมโอไดโกะ |
---|
สถานที่:Kumamotoken utoshi miyanoshomachi 406-2 การเดินทาง:สถานีJRอุโตะต่อด้วยรถใช้เวลาประมาณ 12 นาที โทร:0964-22-1930 เวลาทำการ:9:00~16:30 ค่าเข้า:ปกติ 100 เยน วันหยุดทำการ:ช่วงวันหยุดสิ้นปี(29 ธันวาคม-3 มกราคม),วันจันทร์(บางกรณี),วันจันทร์ที่เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์,กรณีวันหยุดชดเชยจะเปลี่ยนเป็นวันถัดไป |
เสน่ห์ที่ 2 ของเมืองอุโตะ นากาเบตะถนนใต้ทะเล
เนื่องจากเมืองอุโตะหันหน้าไปทางทะเลอะริอะเกะ จึงมีการเพาะเลี้ยงสาหร่ายทะเลแถบบริเวณที่มีน้ำขึ้นน้ำลง แต่ว่าช่วงเวลานั้นเรือประมงจะไม่สามารถเข้าเทียบท่าได้ดังนั้นจึงสร้างถนนที่เรียกว่า นากาเบตะถนนใต้ทะเลนี้ขึ้นมา
ช่วงเวลาน้ำขึ้นคลื่นทะเลจะค่อยๆเข้าใกล้ชายฝั่งทำให้ถนนเส้นนี้ค่อยๆจมหายไปใต้ทะเลจะเหลือเพียงแค่เสาไฟฟ้าเท่านั้นที่ลอยอยู่เหนือผิวน้ำเป็นวิวที่ทำให้มีความรู้สึกคิดถึงบ้านดีเหมือนกัน แถมที่นี่ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำโฆษณาอีกด้วยก็ยิ่งทำให้เป็นที่พูดถึงมากขึ้นไปอีก
ขอแนะนำให้ไปช่วงเวลาก่อนน้ำขึ้นเพราะจะได้เห็นตั้งแต่มีถนนจนถนนจมหายไปในทะเล
นากาเบตะถนนใต้ทะเล |
---|
สถานที่:Kumamotoken utoshi sumiyoshimachi การเดินทาง:ขับรถ 3 นาทีจากสถานีJR ซุมิโยชิ สถานที่จอดรถ:มี |
เสน่ห์ที่ 3 ของเมืองอุโตะ โอโคชิคิคัง อุโตะมารีนา
ที่นี่จำหน่ายทั้งอาหารทะเลและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่เป็นของพื้นเมืองไว้อย่างมากมาย
คุณเฉินเฉินเลยขอชิมผลไม้พื้นเมืองตามฤดูกาลซักหน่อยว่ารสชาติจะเป็นอย่างไร ยิ่งถ้านำมาสกัดเป็นน้ำผลไม้ก็จะได้รสชาติแบบหวานๆกำลังพอดีเลย!
สินค้าพิเศษอีกอย่างของเมืองอุโตะก็คือ สาหร่ายนั่นเองมีให้ได้ลองชิมด้วย อย่างที่คิดไว้เลยมีหลายประเภทมากๆ
ร้านอาหารที่อยู่ข้างๆกันนั้นขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลบอกได้เลยว่าขอแนะนำเมนู ไคเซนด้ง「海鮮丼」ข้าวหน้าปลาดิบสดใหม่ที่ไม่ได้มีแค่ปลาเท่านั้นแถมยังมาพร้อมด้วยซุปหอยมาเป็นเซ็ตเอาไว้ซดให้คล่องคอกันไปเลย
คุณเฉินเฉินเผยรอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติออกมาหลังจากได้ทานเข้าไป มาทีนึงได้ทั้ง พักผ่อน ทานอาหารที่อร่อยและได้ซื้อของท้องถิ่นด้วยจึงขอแนะนำอุโตะมารีนานี้ให้เป็นสถานที่ที่ควรมาจริงๆ
โอโคชิคิคัง อุโตะมารีนา |
---|
สถานที่:Kumamotoken utoshi Shimoodamachi 3084-1 การเดินทาง:ขับรถ 4 นาทีจากสถานีJRนิชิดะ โทร:0964-27-1788 เวลาทำการ:9.00-18.00 (เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ เปิดถึง 17.00) วันหยุดประจำ:วันพุธที่2.4 (กรณีวันหยุดราชการวันถัดไป) เดือนมกราคม วันที่1.2.3 สถานที่จอดรถ:127 คัน HP:http://okoshikikan.net/ |
เสน่ห์ที่ 4 ของเมืองอุโตะ ชายฝั่งทะเลโอโคชิคิ
ใกล้ๆกับอุโตะมารีนานั้นมีสถานที่ให้ได้ชมวิวพระอาทิตย์ตกดินเรียกว่า ชายฝั่งทะเลโอโคชิคิ และยังสามารถมองเห็นความสวยงามของน่านน้ำในช่วงเวลาน้ำขึ้นน้ำลง โดยริ้วของพื้นทรายที่มองแล้วคล้ายรูปวาดพระจันทร์เสี้ยว แถมเมื่อมองไปฝั่งตรงข้ามก็สามารถเห็นออนเซ็น ฟุเกนดาคิของจังหวัดนางาซากิอีกด้วย
ไม่มีคำพูดใดๆจากคุณเฉินเฉินนอกจากสูดหายใจให้เต็มปอดกับความสวยงามของวิวพระอาทิตย์ยามเย็นกับท้องทะเลที่เข้ากันได้ดีสุดๆ โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิช่างภาพจากทั่วโลกจะเดินทางเพื่อมาถ่ายภาพกัน ถ้ามีโอกาสได้มาบ้างหล่ะก็อย่าลืมมาเช็คพ้อยที่จุดนี้กันนะ
ชายฝั่งทะเลโอโคชิคิ |
---|
สถานที่:Kumamotoken Utoshi Toguchimachi การเดินทาง:เดิน 15 นาทีจากสถานีJRนิชิดะ สถานที่จอดรถ:มี ข้อมูลเพิ่มเติม:http://city-uto.com/shio.htm |
เสน่ห์ที่1 ของเมืองมิซาโตะ ฟอเรสแอดเวนเจอร์ มิซะโตะ
ที่ฟอเรสแอดเวนเจอร์แห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบผจญภัยoutdoorที่สอดแทรกไปกับธรรมชาติ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ก็สามารถสนุกสนานไปกับกิจกรรมนี้ได้ทั้งการโหนสลิงข้ามต้นไม้ การปีนป่าย บันไดลิง มีเป็นคอร์สแอดเวนเจอร์หลายแบบให้ได้เลือกเล่น
โหนจากต้นไม้ไปยังเชือกตาข่ายแบบทาซาน
ท้าทายความกลัวบวกกับความตื่นเต้นด้วยความสูง 15เมตร (ประมาณตึก4ชั้น) ถ้ามองลงมาจากข้างบนแล้วหล่ะก็ดูหน้าคุณเฉินเฉินได้เลยแทบจะร้องไห้
ถึงกับก้าวขาไม่ออกเลยทีเดียว ทางเราก็ได้แต่ส่งกำลังใจไปให้คุณเฉินเฉินจากด้านล่างแทน
หลังจากลงมาแล้วก็ยิ้มออก สงสัยเป็นเพราะหลังจากได้ตะโกนกรี๊ดลั่นป่าแน่เลย
นอกจากนี้ที่ฟอเรสแอดเวนเจอร์ มิซะโตะมีซิปไลน์ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น(ขาไป410 เมตรขากลับ 510 เมตร)รวมถึงเป็นที่แรกที่คุณจะสามารถข้ามเขื่อนแบบแหวกอากาศเหมือนหนังจีนกำลังภายในไปพร้อมกับวิวที่สวยงาม
มันคงจะดีไม่น้อยถ้าเราได้ไปสัมผัสประสบการณ์แบบคุณเฉินเฉินระหว่างที่ข้ามก็เห็นผืนน้ำสีเขียวมรกตพร้อมวิวของภูเขา ต้นไม้ แบบสุดลูกหูลูกตา
ถ้าใครเป็นสายผจญภัยในธรรมชาติแล้วหล่ะก็ที่นี่เหมาะมากๆเพราะเค้าคงความสมบูรณ์ของป่าไม้ไว้ไม่ไปทำลาย คุ้มค่าที่จะไปลองจริงๆ
ฟอเรสแอดเวนเจอร์ มิซะโตะ |
---|
สถานที่:Kumamotoken Shimomashiki Misatomachi Uneno 3083-1 วิธีการเดินทาง:ขับรถ 60 นาทีจากสนามบินคุมาโมโตะ เวลาทำการ:9:00~17:00 ค่าบริการ:แอดเวนเจอร์คอร์ส+ซิปไลน์คอร์ส ผู้ใหญ่ 4,600 เยน เด็ก 3,100 เยน โทร:080-8387-3310 อีเมล:miasto@foret-aventure.jp(ทำการจอง) โฮมเพจ:http://fa-misato.foret-aventure.jp/ |
เสน่ห์ที่2 ของเมืองมิซาโตะ คอร์สเดินชมธรรมชาติ
ที่เมืองมิซาโตะแห่งนี้มีทั้งคอร์สเดินชมทั้งธรรมชาติและบรรกาศของบ้านเมืองมากมายให้เลือกเรียกว่า foot path เช่น เดินชมแปลงนาข้าว เดินชมบ้านเรือนในท้องถิ่น เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถเดินชมสถานที่ต่างๆที่ไม่ใช่จุดชมวิวแถมเพลิดเพลินไปกับเมืองมิซาโตะได้อย่างไม่เบื่อกันเลยทีเดียว
มีแผนที่และป้ายบอกทางให้ดูอย่างชัดเจน สำหรับใครที่ไม่เคยไปก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรนัก โดยที่เมืองมิซาโตะนี้มีคอร์สทั้งหมด 15 คอร์ส และในครั้งนี้เป็นตัวอย่างของคอร์สที่ว่าและเราก็จะเดินไปพร้อมกับไกด์ท้องถิ่นกันด้วย
[คอร์สที่ 13 อุเนะโนะยนนัตเสะ]
เริ่มต้นจากพิพิธภัณฑ์มิซาโตะบุซังยนนัตเสะ ด้วยระยะทาง 5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 1ชั่วโมง 50 นาที เมื่อเดินผ่านทางเดินของที่ตั้งแคมป์จะเห็นสวนไม้ไผ่เต็มสองข้างทางบวกกับมีแสงอาทิตย์สาดเข้ามาคงจะเพลิดเพลินกับบรรยากาศไม่น้อย
ความสวยงามนี้เกิดจากธรรมชาติล้วนๆไม่มีการสร้างขึ้นมาเลย
ขากลับไปที่พิพิธภัณฑ์ขอแนะนำว่าอย่าลืมซื้อของกินของฝากด้วยนะเพราะเค้ามีหลากหลายให้เลือกซื้อ
คอร์สที่ 14 สะพานหินเรไดเกียว
เริ่มต้นจากสะพานหินด้วยระยะทาง 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที
สะพานหินเรไดเกียว เป็นสะพานหินขนาดใหญ่ที่ทอดข้ามแม่น้ำมิโดริ จังหวัดคุมาโมโตะสร้างเสร็จในปี 1847 โดยปัจจุบันยังคงสภาพดีอยู่และถูกตั้งให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น
ขณะที่เดินข้ามสะพานก็จะได้ยินเสียงสายน้ำที่ไหลผ่านเอื่อยๆอยู่ตลอด และจากนั้นก็ไปหาที่นั่งทาน ฟุตพาสเบนโตะ (ต้องแจ้งล่วงหน้า)
เสน่ห์ของการมาเดินชมธรรมชาติ (foot path)ก็คือการได้นั่งกินอาหารท้องถิ่นที่มีตามฤดูกาลท่ามกลางธรรมชาติดีๆ
คุณเฉินเฉินตกใจกับขนาดของเกาลัดที่ใหญ่มาก ที่หาทานไม่ได้ง่ายๆเหมือนพวกเต้าหู้หรือมิโสะ
คอร์สที่ 11 นาขั้นบันไดโคซาคิ
เริ่มต้นจากนาขั้นบันไดโคซาคิด้วยระยะทาง 4 กิโลเมตรใช้เวลาเดินประมาณ 90 นาที จุดที่น่าสนใจจะอยู่ที่ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็เห็นการทำนาขั้นบันไดที่ทำต่อเนื่องมายาวนานกว่า 440 ปี
สภาพของนาและรวงข้าวแต่ละฤดูกาลจะได้เห็นวิวไม่เหมือนกันแล้วแต่ว่าใครมาช่วงไหน ยิ่งถ้าช่วงใกล้เก็บเกี่ยวก็จะเป็นสีเหลืองทองอร่ามแต่ถ้าเป็นช่วงอื่นก็จะเห็นทุ่งนาสีเขียวๆสบายตา และในระหว่างนั้นไกด์ของเราก็ได้สอนวิธีเล่นดอกหญ้าด้วย
แต่ดูเหมือนคุณเฉินเฉินจะเล่นไม่เป็นเลยยิ้มแห้งๆ ไกด์ผู้ใจดีก็เลยสอนอีกครั้งทำให้คุณเฉินเฉินค่อยๆยิ้มได้อีกครั้ง
ขณะที่เดินไปเรื่อยๆก็เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศสองข้างทาง รวมถึงเป็นการเพิ่มความทรงจำที่ดีให้คุณอีกความทรงจำหนึ่ง
เส้นทางเดินชมธรรมชาติมิซาโตะ |
---|
สถานที่:Kumamotoken Shimomashiki Misatomachi Baba 749-1 โทร:0964‐53-9997 เวลาทำการ:9:00~17:00 วันหยุด:วันเสาร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ อีเมล:mfa@town-misato.net (ทำการจอง) โฮมเพจ:https://misatofp.jimdo.com/ |
เป็นยังไงกันบ้างบริเวณอุกิแอเรียจังหวัดคุมาโมโตะ? ใครที่อยากสัมผัสกับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นหรือใครที่เหนื่อยล้าจากการทำงานในเมืองหลวง อยากแนะนำให้มาผ่อนคลายปล่อยกายปล่อยใจไปกับที่นี่ รับรองเลยว่าคุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน