บลูเบอร์รี่ ผลไม้ของฤดูร้อนญี่ปุ่น!

ทุกคนไม่ลองวางแผนมาเที่ยวช่วงหน้าร้อนญี่ปุ่นเพื่อมาเด็ดบลูเบอร์รี่สุกดูละ?

คราวนี้พวกเราได้ไป “หมู่บ้านบลูเบอร์รี่ (บลูเบอร์รี่โนะมุระ)” ที่เปิดให้เข้าตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนถึงวันที่ 31 สิงหาคม ค่าเข้าสถานที่สำหรับผู้ใหญ่เท่ากับ 700เยน และ 300เยนสำหรับเด็ก (เด็กต่ากว่า 4 ขวบเข้าได้ฟรี) เนี่องจากไม่จำกัดเวลาว่าเข้าได้นานเท่าไร ทุกคนก็สามารถเด็ดบลูเบอร์ได้เท่าไรก็ได้ตามใจชอบ

สวนนั้นกว้าง 15000 ตารางเมตร และมีต้นบลูเบอร์รี่มากถึงมากถึง 10 สายพันธุ์ 4000 กว่าต้นด้วยกันที่ถูกปลูกในกระถาง! บริเวณที่เด็ดบลูเบอรร์รี่ได้จะถูกแบ่งเป็น 2 โซน โซนเดือนมิถุนายน กับ โซนเดือนกรกฏดาคมและสิงหาคม ฉะนั้นอย่าลืมตรวจสอบให้แน่ชัดแล้วมาเด็ดบลูเบอร์อย่างสนุกสนานกันเถอะ!

สถานที่จัดก็ถูกปกคลุมไปด้วยผ้าไวนิลอยู่แล้งชะนั้นไม่ต้องกลัวเรื่องฝนตก!

มาทานบลูเบอร์รี่ที่เด็ดได้กันเถอะ!

ที่ฉันไปเยี่ยมมาคือโซนเดือนมิถุนายนคะ ช่วงนี้เองก็เป็นช่วงวันหยุดหน้าร้อนฉะนั้นดิฉันขอแนะนำทุกคนที่สามารถแบ่งเวลามาได้มาเด็ดบลูเบอรรี่อย่างสบายใจแทนที่ต้องไปแข่งกับคนอื่นเพื่อไปหาซื้อบลูเบอร์รี่สุกๆคะ

ต่อไปในดิฉันจะขอแนะนำวิธีการแยกแยะบลูเบอร์รี่ที่สุกแล้วเพื่อจะได้ทานบลูเบอร์รี่ที่หวานเปรี้ยวที่สุด! บลูเบอร์รี่ที่สุกแล้วจะมีสีม่วงเข้มทั้งลูกรวมไปถึงแกนด้วย พอเจอลูกพวกนี้แล้วเพียงแค่เด็ดมันขึ้นๆลงๆ มันก็จะลุดออกมาจากต้นได้อย่างง่ายดาย ลูกที่ดูหอมหวานพวกนี้คือลูกที่เพิ่งสุกใหม่ๆร้อนๆจะถูกเรียกว่า “บลูม” และมีราคาตลาดที่สูงมากและได้รับการยกย่องว่าเป็นผลไม้ชั้นเยี่ยม แถมยังดูอรอยน่าทานอีกตะหาก

ฉะนั้น เรามาเริ่มตามหาบลูเบอร์รี่แสนอร่อยกันเถอะ! บวกกับอากาศที่ดีขนาดนี้ ไม่มีช่วงเวลาใหนเหมาะไปกว่าการเด็ดบลูเบอณ์แบบนี้อีกแล้ว!

การที่ได้มาเด็นเด็ดบลูเบอร์รี่สุกๆทีละอันและหยิบกินไปพลางๆเป็นอะไรพิเศษสุดๆไปเลยคะ! ที่นี่มีหลายลูกมาจนเผลอกินจนอิ่มเลยคะ และอย่าลืมเด็ดบลูเบอร์รี่กลับบ้านด้วยนะคะ

หลังจากได้เริ่มเด็ดได้ 40 นาทีแล้ว เนี่องจากว่าเราอยู่ในระหว่างเดือนมิถุนายน อากาศเลยร้อนมา เหงื่อไหลไม่หยุดเลยคะ แต่ก็ยังดีที่ๆนี่มีบริเวณพักผ่อนในร่มพร้อมไปกับตากสายลมธรรมชาติให้ทุกคนได้หยุดพักด้วย

ช่วงนี้แสงแดดก็แรงมาก ฉะนั้นอย่าลืมสวมหมวกและพกผ้าเช็ดหน้ามาด้วยแล้วมาสนุกกับการเด็ดบลูเบอร์รี่ด้วยกันนะคะ!

และนี่คือบลูเบอร์รี่สุกๆที่ชั้นเลือกมากับมือคะ ทั้งหมดนี้เด็ดมาเพื่อไปฝากให้คนในครอบครัวแลพเพื่อนได้ลองทานคะ! หนึ่งในความสุขของการเดินเด็ดลูกบลูเบอร์รี่คือการได้จินตนาการปฏิกิริยาของคนที่ฉันตั้งใจจะยื่นบลูเบอร์รี่ให้ระหว่างเดินเด็ดทีละลูกอย่างใจจดใจจ่อ แถมเราก็สามารถซื้อบลูเบอร์รี่ที่เด็ดมาได้ด้วยราคาเพียงแค่ 320เยน ต่อ 100กรัมเท่านั้น! คุ้มราคายิ่งกว่าไปซื้อที่ซุปเปอร์อีก!

มาลิ้มลองของหวานบลูเบอร์รี่ที่เทอเรสคาเฟ่กันเถอะ

หลังจากที่เดินเด็ดบลูเบอร์รี่จนเหงื่อท่วม และร้างกายนั้นแห้งไปทั่ว ขอแนะนำน้าบลูเบอร์รี่สด (300เยน)! การได้ดื่มน้าบลูเบอร์รี่เย็นๆในร่มเป็นอะไรที่ชุ่มชื่นที่สุด จนแทบจะหยุดดื่มไม่ได้เลยคะ!

อีกหนึ่งสินค้าเฉพาะของที่ “หมู่บ้านบลูเบอร์รี่” นี่คือการเอาบลูเบอร์รี่สดๆมาผสมกับนมของซอฟท์ครีมให้กลายเป็น “Blueberry ซอฟท์ครีม” ลูกบลูเบอร์รี่ที่อยู่ในซอฟท์ครีมที่เต็มไปหมดนั้นดูเหมือนอัญมณีสุดหรูในซอฟท์ครีม! ขอบคุณสำหรับของหวานนี้มากๆคะ!

นอกจากนี้ก็ยังมีของหวานบลูเบอร์รี่อื่นๆอย่างเช่น บลูเบอร์รี่แช่แข็ง (350เยน) บลูเบอร์รี่น้าแข็งใส (350เยน) อีกด้วย! ทุกคนสามารถสั่งได้จนถึงบ่าย 4 โมงครึ่งในช่วงวันธรรมดา และถึง 5 โมงเย็นในช่วงวันหยุด

แนะนำสินค้าบลูเบอร์รี่!

「ที่หมู่บ้านบลูเบอร์รี่แห่งนี้ก็มีกล้าไม้บลูเบอร์รี่ 　ต้นกล้าดูกไม้ต่างๆ สินค้าสวนครัว แยม วุ้น น้าผลไม้ และสินค้าอื่นขายอยู่มากมาย ※สินค้าอาจจะเปลื่ยนไปตามฤดูกาล

ช่วงเดือนกรกฏดาคมและเดือนสิงหาคมเองก็เป็นช่วงที่บลูเบอร์รี่ออกผลดีที่สุด ฉะนั้นไม่ลองมาเด็ดบลูเบอร์รี่พร้อมกับครอบครัวและคนที่คุณรักละคะ?

มาสร้างความทรงจำที่ด๊กับคนที่คุณรักเถอะ

หมู่บ้านบลูเบอร์รี่