ผู้ที่จะมาเก็บตกเรื่องราววันนี้คือผู้คลั่งไคล้ราเม็ง แซม นั่นเอง
คราวนี้แซมก็จะมาเก็บตกข่าวอย่างเต็มกำลังเหมือนเดิมครับ!

โครงสร้างภายในร้านก็ถูกทำมาให้มีอิทเมจเหมือนร้านรถเข็นของฮาคาตะ ให้ลูกค้าได้ทานราเม็งพร้อมไปกับบรรยากาศของร้านรถเข็น

ราเม็งของร้าน Sanki นี้มีราคาถูกสุดคุ้ม และเมนูก็หลากหลายไม่แพ้กัน
เช่น ราเม็งมาตรฐาน “ราเม็ง Yaruki” ราเม็งรสเผ็ดจัด “ราเม็ง Genki” ราเม็งรสเข้มข้น “ราเม็ง Makenki” และก็ราเม็งที่นำจุดเด่นของราเม็ง 3 ชามนี้มารวมกันก็คือ “ราเม็ง Sanki”

ต่อไปคือราเม็งที่โปะผักสดงไปบนหน้าราเม็ง “ราเม็ง Ra-chan” และราเม็งที่ใช้เส้นก๋วยเตี๋ยวสูตรพิเศษ “ราเม็ง Ra-chanpon” ทั้งหมดนี่ก็เพื่อลูกค้าที่ชอบราเม็งแบบหลากหลายสไตล์ได้ทานราเม็งอย่างเอร็ดอร่อย

แซมก็ได้เลือกสั่ง “ราเม็ง Yaruki” การที่ลูกค้าสามารถเลือกความแข็งได้ก็เป็นระบบที่ไม่เหมือนใครของราเม็งฮาคาตะเช่นกัน

เส้นราเม็งของร้าน Hakata Sanki นี้ทำจากแป้งราเม็งของเมืองฟุคุโอกะชื่อ “Ra-Mugi” ที่พอนำเส้นไปลวกแล้วก็จะสามารถดึงรสชาติแฝงของเส้นออกมาได้ให้ลูกค้าได้เพลิดเพลินไปกับรสชาติและกลิ่นหอมของราเม็ง

สำหรับท่านที่สงสัยเรื่องรสชาติก็เชิญชมคลิปได้เลยครับ!

พนักงาน: “สิบเยนครับ”

คาเอดามะของร้าน Hakata Sanki นั้น ‘มีราคาพียงแค่ 10 เยนเท่านั้น’ บริการนี้เริ่มต้นจากความคิดที่ว่า “อยากให้ลูกค้าได้ทานเยอะๆและมีความสุขไปกับการกิน” แซมนั้นรู้สึกประทับใจและขอบคุณความใจดีนี้ของพนักงานมากๆ ทางเราก็รู้สึกเช่นกัน!

แซม: “ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้ครับ”
ราเม็งที่แสนอร่อยบวกกับการบริการอันแสนอบอุ่นและร่าเริงของพนักงานที่นี่ทำให้รู้สึกอิ่มอร่อยไปทั้งกายและใจ

ร้านราเม็ง “ฮาคาตะ Hakata Sanki” นี้มีสาขาอื่นๆในโตเกียวและคุมาโมโต้ด้วย หากท่านมีโอกาสได้ผ่านร้านนี้แล้วละก็อย่าลืมลองเข้าร้านดูนะครับ แล้วท่านจะได้ลิ้มลองรสชาติของราเม็งฮาคาตะ