จังหวัดคุมาโมโตะตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดฟุกุโอกะ โดยอำเภอเมืองของคุมาโมโตะนั้นมีประชากรมากเป็นอันดับ 3ของภูมิภาคคิวชู
ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายแต่ถ้าพูดถึงสิ่งก่อสร้างที่ถือว่าเป็นตัวแทนของคุมาโมโตะนั้นก็คงต้องนึกถึงปราสาทคุมาโมโตะนั่นเอง
เมืองนี้มีสวนญี่ปุ่นซุยเซนจิที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานกว่า 400 ปี อีกทั้งยังมีถ้ำเรกังโดที่ซามูไรชื่อดังอย่างมิยะโมะโตะ มุซะชิเคยฝึกสมาธิที่นี่อีกด้วย ที่คุมาโมโตะนั้นมีของขึ้นชื่ออยู่หลายอย่างทั้งซาชิมิเนื้อม้า รากบัวสอดไส้มัสตาร์ด(คาราชิเรนคง)คุมาโมโตะราเมงและวัฒนธรรมเฉพาะอื่นๆอีกมากมาย
โดยในครั้งนี้คุณแซมและคุณนิด้าจะพาเรายังสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในคุมาโมโตกัน

ใช้เวลาเดินทางจากสถานีฮากาตะมายังสถานีคุมาโมโตะด้วยรถไฟชินคังเซนประมาณ 40 นาทีมีรถบัสวิ่งตรงจากจากท่าเรือคุมาโมโตะถึงสถานีคุมาโมโตะอีกด้วยจึงทำให้การเดินทางนั้นสะดวกสบาย

คุมาโมโตะเค็งโจมาเอะ(ศาลากลางจังหวัด)

ต้นไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองคุมาโมโตะคือ ต้นกิงโกะหรือต้นแปะก๊วย ซึ่งรอบปราสาทคุมาโมโตะปลูกไว้เป็นจำนวนมากจึงได้รับการขนานนามว่า「ปราสาทแปะก๊วย」นั่นเอง
ยิ่งในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม เป็นช่วงที่เราจะสามารถเห็นใบของต้นแปะก๊วยเปลี่ยนสีทำให้ทั้งเมืองกลายเป็นสีเหลืองเลยทีเดียว
โดยเฉพาะลานกว้างที่ศาลากลางจังหวัดจะถูกย้อมไปด้วยสีเหลืองสดใสตลอดทางยาวกว่า 80 เมตรถือเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมน่าเดินเล่นชิลๆหรือจะถ่ายรูปชิคๆ ก็ยังได้

ร้านวา Collection มิโตะ

เป้าหมายต่อไปของเราก็คือก่อนจะไปเดินเล่นกันที่สวนเซนซุยจิ ทั้ง 2 คนขอใส่ชุดให้เข้ากับบรรยากาศซักนิดนึง ด้วยการเช่าชุดกิโมโนใส่ที่ร้านวาCollectionมิโตะ
มีชุดกิโมโนกว่า 100 ชุดและชุดยูกาตะกว่า 300 ชุดให้เช่า ใส่โดยพนักงานที่มีความชำนาญรับรองเลยว่าใส่ออกมาสวยเป๊ะแน่นอน
แถมจากร้านเดินไปสวนเซนซุยจิเพียงแค่ 1 นาทีเท่านั้นเอง เปลี่ยนชุดปุ๊ปเดินเข้าได้ปั๊ป
บอกเลยว่าข้อดีของการใส่ชุดกิโมโนหรือยูกาตะนั้น ไม่ต้องเสียค่าเข้าสวนเซนซุยจิแถมมีบริการถ่ายรูปอีกต่างหาก

ว้าว！ทั้ง2คนใส่กิโมโนออกมาแล้วดูดีมากเลย
ใส่เดินเล่นในเมืองแบบนี้ได้ฟิลลิ่งญี่ปุ่นสุดๆ

สวนซุยเซนจิโจจุเอ็น

สวนซุยเซนจิโจจุเอ็น เป็นสวนสวยสไตล์ญี่ปุ่นมีอายุกว่า 400 ปี
ใจกลางของสวนมีสระน้ำที่ไหลมาจากภูเขาอาโสะ
ภายในสวนมีการก่อสร้างศาลเจ้าอิซุมิขึ้นในปี 1878

ที่นี่ยังมีอีกหลายสิ่งที่ทำให้เราเพลิดเพลินไปกับความเป็นญี่ปุ่น ทั้งสวนที่กว้างขวาง ประตูแดงโทริอิและโรงละครโน

อีกทั้งภายในสวนยังมีบ้านชาโคคินเด็นจุโนะมาที่ถูกกำหนดให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม จากตรงนี้สามารถมองเห็นวิวกว้างขวางของสวนได้อีกด้วย

ยิ่งมองจากมุมนี้เข้าหาสวนแล้วจิบชาไปพลางๆ โอ้โหเกินจะบรรยายได้

ที่นี่มีไกด์ที่สามารถพูดภาษาต่างประเทศพาชมสวนด้วยเช่นกัน

รายละเอียดเพิ่มเติม：http://www.suizenji.or.jp/ilovepdf_com.jpg

คุมาโมโตะราเมง －เด็นโท คุมาโมโตะ ทงคตสึ เด็น－

คุมาโมโตะราเมงดีที่สุดเรื่องซุปกระดูกหมู สิ่งที่โดดเด่นก็คือกระเทียมคั่วและน้ำมันกระเทียมที่ใส่ไปเพื่อเพิ่มรสชาติให้หอม
ยิ่งใส่ลงไปในซุปน้ำจะยิ่งดำขึ้น ถือเป็นยูนีคเลยก็ว่าได้
เมื่อเทียบกับฮากาตะราเมงแล้วนั้น ทีนี่จะใช้เส้นที่มีความหนากว่า

เพื่อความอร่อยมากยิ่งขึ้นขอแนะนำให้ใส่กระเทียมคั่วลงไปเพิ่มด้วย
โดยร้านเด็นโท คุมาโมโตะ ทงคตสึ เด็นนั้นมีอยู่ที่ถนนกินซ่าหน้าร้านมีตัวหนังสือเขียนคำว่า「伝」 ตัวใหญ่ๆอยู่หาเจอได้ไม่ยาก

ซากุระโนะบาบา โจไซเอ็ง

ซากุระโนะบาบา โจไซเอ็ง เป็นเมืองรอบปราสาทสมัยก่อนที่ถูกนำมาสร้างใหม่เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านขายสินค้าต่างๆกว่า 23 ร้าน

ข้างในมีคุมาโมโตะไวน์และของฝากจากคุมาโมโตะอีกมากมายให้ได้ซื้อกลับไปเป็นที่ระลึก

「วาคุวาคุสะ」เป็นสถานที่ที่จะทำให้เราสนุกและได้รับประสบการณ์ไปกับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ศิลปะวัฒนธรรมของคุมาโมโตะให้เข้าใจมากย่างขึ้น

ทั้ง2คนดูสนุกกันมากๆเลย

เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับปราสาทคุมาโมโตะแบบ 3D

อยากรู้เรื่องราวที่ละเอียดกว่านี้สามารถไปได้ที่โจไซเอ็งแห่งนี้ได้เลย

ปราสาทคุมาโมโตะ

สัญลักษณ์ประจำคุมาโมโตะ・ปราสาทคุมาโมโตะ
มีประวัติศาสตร์มายาวนานกว่า 400 ปีเป็น 1 ใน 3 ของปราสาทที่มีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่น
ในปี 2016 ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่คุมาโมโตะทำให้ปราสาทถล่มลงมา ตอนนี้อยู่ในระหว่างการซ่อมแซมอยู่

แต่จากที่เห็นตอนนี้ขั้นตอนการบูรณะก็ดูเหมือนจะเป็นไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกใจชื้นขึ้นมาเลยว่ามั้ย?
และถึงแม้ตอนนี้จะยังเข้าไปชมส่วนต่างๆของปราสาทไม่ได้แต่บริเวณรอบๆปราสาทยังมีกิจกรรมต่างๆมากมายเปิดให้เข้าชม
ขอเชิญชวนให้ทุกคนไปเยี่ยมชมปราสาทคุมาโมโตะกันเยอะๆนะ จะได้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง

วัดอุนกังเซนจิ

วัดอุนกังเซนจิที่มีถ้ำชื่อดังอย่างถ้ำเรกังโดอยู่เป็นสถานที่ฝึกสมาธิและที่เขียนคัมภีร์ห้าห่วงหรือตำราพิชัยสงคราม(โกะริงโนะโชะ)ของสุดยอดนักดาบทีแข็งแกร่งที่สุดในญี่ปุ่นมิยะโมะโตะ มุซะชิ

ในช่วงบั้นปลายชีวิตมุซะชิเคยอาศัยอยู่ที่คุมาโมโตะและใช้เวลา 5 ปีตั้งแต่ปี 1643 ถึง 1645 ในถ้ำเรกังโดแห่งนี้ก็เป็นที่เขียนคัมภีร์ห้าห่วงขึ้นมา
นั่งบนหินแล้วเขียนหนังสือแบบนี้หรือเปล่าน้า

ข้างๆกันมีภาพวาดและดาบไม้ของมุซะชิที่ใช้เมื่อสมัยสงครามกังเรียวจิมาไว้ให้ได้ชมอีกด้วย
บรรยากาศอันเงียบสงบและวิวธรรมชาติที่มุซะชิใช้รวบรวมสมาธิและจิตวิญญาณเอาไว้ที่นี่ น่าลองมาสัมผัสความรู้สึกแบบนี้กันดูซักครั้งนะว่ามั้ย?

คามิโทริ อาร์เคด(ถนนคนเดิน)

ถนนคนเดินใจกลางเมืองคุมาโมโตะแห่งนี้มีความยาวถึง 360 เมตร ตลอดสองข้างทางมีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายของต่างๆมากมาย ลักษณะทางเดินมีหลังคาโค้งสูงคลุมทั่วทั้งบริเวณ สะดวกต่อการช้อปปิ้งที่สุด

เมื่อทั้งสองคนได้มาแวะเที่ยวที่นี่แล้ว ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า 「ไม่เหมือนอยู่ที่ญี่ปุ่นเลย」ซึ่งถ้าจะเข้าใจแบบนั้นก็ไม่แปลก เพราะที่นี่เป็นการผสมผสานกันของสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นและฝรั่งเศสนั่นเอง

ร้านอิซากายะ －โยโคบาชิ－

จากถนนคนเดินออกมาไม่ไกลก็จะพบกับซอยต่างๆที่มีร้านอาหาร ร้านอิซากายะมากมาย โดยในครั้งนี้เราจะลองกันที่ร้าน 「โยโคบาชิ」มีเนื้อวัวอาคะและเนื้อม้า(บานิคุ)รวมถึงรากบัว(คาราชิเรนคง) อันเป็นอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดคุมาโมโตะทั้งหมดเลย

เพื่อไม่เป็นการเสียเวลามาเริ่มต้นกันด้วยเมนู Higo three primeกันเลยดีกว่า โอ้โหเห็นแล้วน้ำลายสอ
ที่นี่ถือเป็นร้านที่ดีสำหรับการมาทานอาหารมากๆคือสั่งจานหลักมาแค่1อย่างก็สามารถสั่งเครื่องดื่มมาทานคู่กันได้(ปกติร้านอิซากายะจะมีขั้นต่ำของการสั่งอาหารตามจำนวนคน เช่น มา2คนต้องสั่ง 2อย่างขึ้นไป)

คุมาโมโตะรวมความหลากหลายไว้ในที่เดียวทั้งวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ อาหาร
รับรองได้เลยว่าถ้ามาเที่ยวที่นี่จะเหมือนค้นพบประสบการณ์ใหม่ๆกลับไปทุกครั้ง
แถมเดินทางจากฟุกุโอกะมาก็ไม่ยากอีกด้วย อย่าลืมลองมาเที่ยวกันซักครั้งดูนะทุกคน